เรอัล มาดริดแซงชนะมายอร์ก้าท้ายเกม ชะลอการฉลองแชมป์ของบาร์เซโลนา

เรอัล มาดริด พลิกกลับมาชนะเรอัล มายอร์ก้า 2-1 อย่างดราม่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โดยได้ประตูชัยจากลูกยิงของฮาโคโบ รามอน กองหลังดาวรุ่งวัย 20 ปี ในนาทีที่ 95 ทำให้การคว้าแชมป์ลาลีกาของบาร์เซโลนาถูกเลื่อนออกไปอีกอย่างน้อยหนึ่งวัน
เกมนี้จัดขึ้นที่สนามซานติอาโก เบร์นาเบว ท่ามกลางอากาศชื้นแฉะ แฟนบอลเว้นที่นั่งราว 30,000 ที่นั่ง และสภาพทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ ที่ประกาศอำลาสโมสรหลังจบฤดูกาลก็ย่ำแย่ มีนักเตะบาดเจ็บและถูกพักแข้งหลายราย เหลือผู้เล่นทีมชุดใหญ่เพียง 10 คน
มายอร์ก้าขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 11 จากจังหวะที่ดานี เซบาญอสพลาดตัดบอล ก่อนที่มาร์ติน วัลเยนต์จะซัดผ่านมือติโบต์ กูร์กตัวส์เข้าไป มาดริดพยายามบุกหนัก โดยมีคิลิยัน เอ็มบัปเป้เป็นหัวใจสำคัญ ตีเสมอได้ในนาทีที่ 68 จากลูกยิงสุดสวยที่เสาแรก ซึ่งเป็นประตูที่ 28 ในลีก และประตูที่ 40 รวมทุกรายการในฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ตาม เกมนี้มีผู้เล่นมาดริดหลายคนขาดหายไป เช่น อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (ติดโทษแบนและผ่าตัด), วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก, บราฮิม ดิอาซ, ออเรเลียง ชูอาเมนี, รวมถึงอังเดร ลูนินและคาแมวิงกา
และแล้วในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 95 เฆซุส บาเยโฆ ซึ่งแทบไม่เคยลงสนามในฤดูกาลนี้ กลับกลายเป็นฮีโร่ร่วมโดยเปิดบอลให้รามอนซัดประตูชัย ทำให้บรรยากาศในสนามกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ชัยชนะนัดนี้ทำให้มาดริดตามหลังบาร์เซโลนาอยู่ 4 แต้ม โดยมาดริดเหลืออีก 2 นัด ส่วนบาร์ซ่าเหลือ 3 นัด หากบาร์เซโลนาเอาชนะเอสปันญอลในเกมวันพฤหัสนี้ พวกเขาจะคว้าแชมป์ทันที หากไม่สำเร็จ ทีมของฮันซี่ ฟลิคยังมีโอกาสอีกสองนัดในการเก็บ 3 แต้มที่ต้องการ
แม้โอกาสลุ้นแชมป์ของมาดริดจะริบหรี่ แต่ชัยชนะนัดนี้คือสัญลักษณ์ของหัวใจนักสู้และความทรงจำในค่ำคืนสุดท้ายของอันเชล็อตติที่เบร์นาเบว ซึ่งจะถูกจารึกไว้ไม่แพ้การคัมแบ็กในอดีต

